เครือข่ายประชาชนปกป้องแม่น้ำกกสายรวกโขง
อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย
วันที่ 28 สิงหาคม 2568
เรื่อง ขอให้ยกเลิกการสร้างก่อสร้างม่านน้ำดักตะกอน แม่น้ำกก แม่น้ำสาย
เรียน นายกรัฐมนตรีเรียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม
เรียน อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ
ด้วยกรมทรัพยากรน้ำ ในฐานะคณะทำงานพิจารณารูปแบบและวิธีการดักตะกอน เพื่อแก้ไขปัญหาคุณภาพนํ้าในพื้นที่แม่นํ้ากกและแม่นํ้าสาย ได้ดำเนินการปรับรูปแบบการสร้างฝายดักตะกอน เป็นรูปแบบม่านน้ำดักตะกอน จำนวน 4 แห่ง ในลำน้ำกก ในพื้นที่ อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ 3 แห่ง และ อ.เมือง จ.เชียงราย 1 แห่ง ด้วยงบประมาณก่อสร้าง 173 ล้านบาท ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบภายในเดือนกันยายน 2568 และจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือนธันวาคม 2568 นี้นั้น
เครือข่ายประชาชนปกป้องแม่น้ำกกสายรวกโขง อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย ร่วมกับประชาชนและองค์กรเครือข่ายดังรายชื่อท้ายจดหมายฉบับนี้ ได้ติดตามโครงการก่อสร้างม่านน้ำดักตะกอนของกรมทรัพยากรน้ำ ใคร่มีข้อท้วงติงต่อความไม่เหมาะสมของโครงการดังกล่าวนี้ และขอให้ นายกรัฐมนตรีได้ระงับโครงการก่อสร้างม่านน้ำดักตะกอนของกรมทรัพยากรน้ำ ด้วยเหตุผลดังนี้
1. กรมทรัพยากรน้ำ ยังไม่ได้ดำเนินการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นของโครงการดังกล่าวนี้ ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งยวด เพื่อจะแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพและความคุ้มค่าของการใช้งบประมาณ ในการลดการปนเปื้อนสารโลหะหนัก, ผลกระทบต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นทั้งในปัจจุบันและผลกระทบสะสมในอนาคต และกระบวนการรับฟังความเห็นจากประชาชนในลุ่มน้ำกกและชุมชนที่เป็นที่ตั้งของโครงการ
2. ข้อมูลที่มีการเปิดเผยระบุว่างบประมาณในโครงการก่อสร้างม่านน้ำดักตะกอน จำนวน 173 ล้านบาทนั้น แต่ในข้อเท็จจริง ต้องใช้งบประมาณมากกว่าที่ระบุไว้มากอาทิเช่น ค่าชดเชยที่ดินทำกินของชุมชน, ค่าก่อสร้างระบบการขนส่งใหม่ให้รองรับการขนส่งตะกอนไปกำจัดนอกพื้นที่, ค่าจ้างการบำบัดและจัดการตะกอนไปทิ้งในพื้นที่อื่น ฯลฯ ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำ ยังมิได้ให้รายละเอียดที่ครอบคลุมงบประมาณในทุก ๆ ด้าน
3. โครงการนี้ ไม่มีความชัดเจนว่า ปริมาณตะกอนที่สูบออกและนำไปบำบัดได้นั้น คิดเป็นปริมาณร้อยละเท่าไหร่ ของปริมาณตะกอนในแม่น้ำกก และสามารถลดการปนเปื้อนสารโลหะหนักใดได้บ้าง ปริมาณมากน้อยเพียงใด มีสารใดบ้างที่หลงเหลือไม่สามารถกักได้จากการดักตะกอน รวมถึงต้นทุนของการกำจัดตะกอนรวม ต่อตะกอนแห้งน้ำหนัก 1 ตันจะมีต้นทุนเท่าไหร่
4. องค์ประกอบของการก่อสร้างม่านน้ำดักตะกอนในแต่ละแห่ง จะประกอบด้วยการสร้างฝายในลำน้ำ 2 ชั้น, ม่านดักตะกอน, บ่อตกตะกอน และลานตากตะกอน ซึ่งการก่อสร้างทั้งหมด จะต้องใช้พื้นที่ป่าไม้และพื้นที่การเกษตรของชุมชน ในปัจจุบันยังไม่มีการประชุมชี้แจงเป็นทางการในระดับชุมชน นอกจากนี้ ด้านเหนือของฝายดักตะกอน จะชะลอการไหลของน้ำ ส่งผลให้เกิดการตกตะกอนที่มากขึ้นในพื้นที่เกษตรน้ำท่วมถึง ซึ่งจะส่งผลต่อการปนเปื้อนในพื้นที่เกษตรสูงขึ้น และส่งผลกระทบต่อการปนเปื้อนในผลผลิตการเกษตรที่สูงขึ้นและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่เหล่านี้
ด้วยเหตุผลถึงความไม่เหมาะสม ไม่สอดคล้องกับการแก้ไขปัญหาผลกระทบการปนเปื้อนสารโลหะหนักข้างต้นนี้ ทางเครือข่ายฯ จึงใคร่ขอให้ นายกรัฐมนตรี ได้พิจารณาระงับโครงการม่านน้ำดักตะกอนของกรมทรัพยากรน้ำ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ ที่ไม่มีการศึกษาและหลักประกันใด ๆ ว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างยั่งยืน และมีคำสั่งให้การแก้ไขปัญหาใดๆจำเป็นต้องมีการปรึกษาหารือกับภาคประชาชนและดำเนินการตามกฎหมายอย่างมีระบบและหลักวิชาการที่จะไม่ส่งผลกระทบอันเกิดจากการแก้ไขปัญหาด้วย
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา
ขอแสดงความนับถือ
1. เครือข่ายประชาชนปกป้องแม่น้ำกกสายรวกโขง
2. มูลนิธิพัฒนาชุนและเขตภูเขา (พชภ.)
3. คลินิกกฎหมายสิ่งแวดล้อม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
4. มูลนิธิศูนย์ข้อมูลชุมชน
5. มูลนิธิเพื่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
6. มูลนิธิบูรณะนิเวศ
7. คณะทำงานติดตามความรับผิดชอบการลงทุนข้ามพรมแดน (ETOs Watch Coalition)
8. กลุ่มเสรีภาพแม่น้ำโขง (The Mekong Butterfly)
9. กลุ่มเพื่อนต่อต้านเผด็จการ (Friends Against Dictatorship: FAD)
10. สมาคมแม่น้ำเพื่อชีวิต
11. มูลนิธิร่มโพธิ์
12. เครือข่ายรักษ์น้ำกก
13. คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคเหนือ
14. ชุมชนนักกิจกรรมภาคเหนือ
15. ศูนย์ประสานงานหลักประกันสุขภาพประชาชนเครือข่ายชาติพันธุ์จังหวัดเชียงใหม่
16. ศูนย์คุ้มครองสิทธิ์บัตรทองเครือข่ายชาติพันธุ์
17. มูลนิธินานาเผ่าไร้พรมแดน
18. ศูนย์สร้างสรรค์เพื่อการพัฒนา จังหวัดเชียงใหม่
19. Climate Connectors

